วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2551

คิดดี ทำให้ชีวิตประสบความสำเร็จ



การวางจุดมุ่งหมายให้แน่นอนในชีวิตของคนเรา เป็นหลักการอันสำคัญที่สุดของการดำเนินชีวิต คนที่ ขาดจุดมุ่งหมาย ก็คือ คนที่ขาดหลักสำหรับยึดเหนี่ยว ไม่รู้ว่าชีวิตจะไปทางไหน เหมือนเรือที่ลอยเท้งเต้ง ไปตามกระแสน้ำ น้ำขึ้นก็ลอยขึ้น น้ำลงก็ลอยลง อย่างไรก็ตาม การวางจุดมุ่งหมายของชีวิตนั้น เราจำเป็นจะต้องวางไว้ในระยะที่พอจะไปถึงได้โดยง่าย การวางจุดมุ่งหมายไว้ไกลเกินไป เราก็ย่อมไม่อาจบรรลุถึงได้ หรือกว่าจะถึงก็เหนื่อยอ่อน หมดความยินดีใน ความสำเร็จของตนเสียก่อน บุคคลที่ฉลาดย่อมรู้ว่าจุดหมายของตนนั้นอยู่ห่างไกลเพียงไร แล้วเขาก็วางจุดหมายในระยะใกล้ ๆ ไว้เป็นระยะ ๆ เพื่อที่จะก้าวไปสู่จุดหมายอันแน่นอนของชีวิต ค่อย ๆ ก้าวไประยะสั้น ๆ และก้าวไปได้ ง่าย ๆ กระทำเช่นนี้เรื่อยไปจนถึงจุดหมายปลายทางที่ต้องการของชีวิต คนเราหากมีความมุ่งหมายแล้ว ข้อสำคัญอยู่ที่ว่า ท่านมีความตั้งใจจริงแน่นอนที่จะก้าวไปข้างหน้า โดย ไม่รู้จักคำว่าแพ้ โดยไม่รู้จักคำว่าถอยหลัง ถ้าท่านมีคุณสมบัติข้อนี้ ท่านจะเป็นบุคคลที่จะได้รับความสำเร็จ ได้โดยไม่ต้องสงสัย เราอาจเคยได้ยินคนบางคนบ่นเสมอว่า เขาเป็นคนไม่มีโชค เขาเป็นคนโชคร้ายเป็นต้น คนที่ทำงานไม่ค่อย บรรลุผลสำเร็จมักจะโทษว่าตนเองโชคร้าย ไม่โชคดีเหมือนคนอื่น ๆ เขา แต่เราอาจเคย พูดคุยกับคนอีก ประเภทหนึ่งที่เขาสร้างตนเองขึ้นมาด้วยลำแข้งของตัวเอง กระทั่งบัดนี้ได้กลายเป็นเศรษฐีย่อย ๆ คนหนึ่ง ทรัพย์สมบัติทุกชิ้นของเขาได้มาจากการประกอบอาชีพโดยสุจริต เขาบอกว่าเงินนั้นไม่ใช่ของหายากทุกวันนี้ เราก็ย่ำกันไปบนกองเงินกองทองด้วยกันทั้งนั้น ต่างแต่ว่าใครจะรู้จักหยิบฉวยมันขึ้นมาเป็นเงินเป็นทองจริง ๆ เท่านั้นเอง ถ้อยคำของคน ๆ นี้ต่างกับความคิดอ่านของคนบางคนที่ได้แต่บนถึงเรื่องความไม่มี โชคของตน อย่างเดียว ทุกหนทุกแห่ง เราจะพบแต่ผู้ที่ไม่พอใจในงานที่ตนทำอยู่ เขาคิดว่าเขาอาจมีโชคดีขึ้น อาจมีความร่ำรวย และสุขสบายขึ้น ถ้าหากเขาได้ทำงานอย่างคนโน้นทำอยู่ เพราะเขาคิดว่าถ้าได้ทำงานอย่างคนนั้นบ้างแล้ว เขาคงจะมีโชคดีขึ้น คนขายของก็อยากเป็นดาราภาพยนตร์ คนครัวก็อยากเป็นสมุห์บัญชี ทนายความก็ อยากเป็นแพทย์ นายแพทย์ก็อยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ อะไรทำนองนี้ ดูยุ่งเหยิงไปหมด สรุปก็คือ แต่ละคน ดูหมิ่นเหยียดหยามอาชีพของตนเองว่าไม่มีความก้าวหน้า สู้อาชีพของคนอื่นไม่ได้ กำลังสมองของคนเราสิ้นเปลืองไปเพราะความคิดเช่นนี้มีมากมาย ผู้ที่เห็นว่าอาชีพใดรุ่งเรืองและอยาก จะประกอบอาชีพนั้น ๆ บ้าง ล้วนแต่เป็นพวกคิดสั้น ๆ ถ้าหากเขาได้ศึกษาให้ลึกลงไปอย่างแท้จริงแล้ว เขาจะได้ทราบความจริงว่า ผู้ที่ประสบโชคดีในอาชีพที่เขาปรารถนาอยู่นั้น ต้องต่อสู้ ผจญกับความลำบาก และต้องผ่านความอดทนมาแล้วไม่น้อยไปกว่าอาชีพของเขาเลย ยกตัวอย่างเจ้าของร้านขายของชำแห่งหนึ่ง แต่เดิมมีห้อง ๆ เดียวขายของเบ็ดเตล็ดต่าง ๆ ค น ๆ นี้ แต่เดิมเขาก็รู้สึกเบื่อหน่ายในกิจการของตนเองเหมือนกัน เขาคิดจะเปลี่ยนไปเป็นร้านขายยาบ้างร้านขาย เครื่องดื่มบ้าง แต่ว่าบังเอิญชายผู้นี้มีภรรยาเป็นคนฉลาดและมีมานะอดทน ภรรยาไม่เห็นด้วย ต่อการที่จะ เปลี่ยนอาชีพเป็นอย่างอื่น เธอบอกกับสามีว่า เหตุใดเราจึงไม่พยายามปรับปรุงร้านเล็ก ๆ ของเราให้ดีขึ้น เพราะทางที่จะปรับปรุงนั้นยังมีทางทำได้ สามีเลยได้คิด จึงได้ลงมือปรับปรุงกิจการของเขาขนานใหญ่ บัดนี้เขาจึงกลายเป็นเจ้าของร้านขายของเบ็ดเตล็ดต่าง ๆ มีถึง 3 ห้อง คนเช่นนี้เองที่รู้จักนำเอาโชคที่เขา เคยนึกไม่ถึงมาสร้างให้เป็นตัวเป็นตนขึ้น เพราะฉะนั้นคนเราจงใช้โอกาสที่มีอยู่แล้ว ทำการงานของเราให้ดีที่สุด จงใช้เวลาเสาะแสวงหาช่องทาง ที่จะปรับปรุงส่งเสริมการงานที่ทำอยู่ให้เจริญงอกงามเท่าที่คนทั่วไปจะทำได้ ฐานะที่เราเป็นอยู่นี้ จะดีจะเลว หรือจะยากจนเข็ญใจอย่างไร ก็จงทำให้ดีที่สุด คนสำคัญ ๆ ของโลกมากมายที่สามารถก้าวขึ้นมาสู่ความ รุ่งโรจน์ได้ ทั้ง ๆ ที่เขาเคยอยู่ในสภาพที่ยากจนและมีภาระผูกพันมากมาย โชคดีมีอยู่ทั่วไปทุกหน ทุกแห่ง ในดิน ในอากาศ ในโรงงาน ในร้านค้า ในบ้าน ในเรือกสวน ในไร่นา มีใน ทุก ๆ สถานที่ เราอาจเคยได้ยิน หลายคนบ่นว่า เมื่อไรหนอโชคจะมาหาเราสักที จงบอกเขาว่าโชคไม่ได้ อยู่ที่อื่น แต่อยู่ที่ตัวเราเอง โชคมาหา เราไม่ได้ แต่เราจะต้องสร้างโชคขึ้นมาด้วยพละกำลังของเรา โชคอาจจะอยู่ที่การคิดของเราเอง คือการคิดโดยพิจารณาจากข้อมูลหลายด้าน และมีข้อเท็จจริง หลายอย่าง มีการตรวจสอบความคิดและมีความรู้สึกตัวขณะพูดและทำ การกระทำและการพูดที่คิดแล้วจะ ไม่ผิดพลาด นั่นก็คือคิดดี เมื่อคิดดี จิตใจและชีวิตก็จะเป็นสุข แสดงว่าคิดดี ทำให้ประสบผลสำเร็จ

ไม่มีความคิดเห็น: