วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2551

คิดไม่ดี ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต

มีคนมากมายที่รองานที่ควรทำในวันนั้นไปทำในวันอื่น เช่น ควรจะไปเยี่ยมญาติซึ่งป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล ในเช้านี้ ก็บอกกับตนเองว่า บ่าย ๆ ค่อยไปเยี่ยมดีกว่า แทนที่จะอ่านหนังสือที่ควรอ่านเสียวันนี้ ก็บอก ตนเอง ว่า รอไว้อ่านพรุ่งนี้เถอะ ผลสุดท้ายก็คือญาติออกจากโรงพยาบาลแต่ไม่ได้ไปเยี่ยมสักที หนังสือที่ ควรอ่านก็ เลยไม่ได้อ่าน การผัดวันประกันพรุ่งเช่นนี้ ถือเป็นโจรปล้นทั้งเวลาและความสำเร็จของเราเอง ทำให้บรรลุผล สำเร็จน้อยกว่าที่ควรจะเป็น เพราะถ้าหากเรามีความกระตือรือร้น เราจะทำงานได้สำเร็จมาก กว่าการรั้งรอไว้ เป็นปกติธรรมดาอย่างหนึ่งที่คนผัดวันประกันพรุ่งนั้น มักจะสำคัญและบอกว่าตนเองมีธุระมากที่สุด ไม่มีเวลาจริง ๆ ข้อที่ร้ายที่สุดก็คือ คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่งจะเป็นคนที่ขาดการตัดสินใจ มีการตัดสิน ตกลงใจไม่แน่นอน เป็นคนที่ปัดความรับผิดชอบไปให้คนอื่น เป็นคนที่ละเลยต่อการงานที่ควรทำ ซึ่งคนที่ มีนิสัยเช่นนี้จะเป็นผู้ที่ถูกเหยียดหยาม ไม่มีใครยกย่องนับถือเลย บุคคลประเภทนี้นาน ๆ เข้าจะกลายเป็น คนที่ตัดสินใจอะไรไม่เป็น จะเป็นคนที่ปราศจากความสุข ความรื่นรมย์ตลอดชีวิต จะหวาดเกรงต่อการ ตัดสินปัญหาทุกอย่าง ซึ่งชีวิตคนเรานั้นย่อมมีเรื่องที่จะต้องตัดสินตกลงใจร้อยแปดพันประการ บุคคลที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง จะต้องแก้ไขนิสัยตนเองโดยเร็ว เขาจะต้องตื่นขึ้นจากฝันร้าย เขาจะ ต้องถอนตัวออกจากความอ่อนแอ และปลุกใจตนเองให้เกิดความมุ่งหวัง ให้เกิดผลสำเร็จ และมีลักษณะ นิสัยเข้มแข็ง เด็ดขาด และบอกตัวเองอยู่เสมอว่า "เมื่อใดงานผ่านเข้ามา จงทำเสียเดี๋ยวนี้ หรืออย่างช้าที่สุด ก็คือวันนี้" สิ่งหนึ่งที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ ต้องพบกับมันอยู่เสมอ ๆ ก็คือ ความอิจฉาริษยา ไม่ใช่ว่าทุกคนจะต้องมีปม เหล่านี้เท่ากัน แต่จะมีมากน้อยต่างกันไป ถ้าคนเรามีความคิดอิจฉาริษยากันมาก ๆ ก็มีทุกข์มาก แม้ว่าเราไม่อยากมีกัน แต่เราก็มีกันทุกคน มากบ้างน้อยบ้างตามแต่ลักษณะ วิธีที่จะรักษาหรือทำให้หายก็แสนจะยาก การ อบรมสั่งสอนว่าอย่าอิจฉา ริษยากันเลยนั้นแทบจะไม่ได้ผลเลย แต่อาจมีวิธีบรรเทาได้บ้าง 2 ข้อ ดังนี้ ข้อแรก จงทำตัวสบาย ๆ อยากรู้สึกอะไร ๆ ก็ได้ อยากอิจฉาก็อิจฉาไป นึกเสียว่าเมื่อมีความหิว เราก็ ขวนขวายอะไรกินเสีย ความหิวก็หายไป แล้วก็กลับมาหิวใหม่ได้ ข้อที่สอง จงมีความเพลิดเพลินกับการมีชีวิตอยู่ หาอะไรสนุก ๆ ทำไปเรื่อย ๆ สนใจกิจกรรมต่าง ๆ ของ ชีวิต เช่น เล่นกีฬา เล่นดนตรี ดูแลต้นไม้ ดูแลสัตว์เลี้ยง คบหาเพื่อนอาชีพต่าง ๆ พูดคุยทำตัวให้มีความ เพลิดเพลิน ถึงคุณจะมีความอิจฉาริษยามันก็จะเลือน ๆ ลงไปบ้าง การที่คนคิดไม่ดี คิดร้ายกับคนอื่น มีตัวอย่างอีกมากมาย เช่น โจรผู้ร้ายที่เที่ยวปล้นฆ่าคน ฉกชิงวิ่งราว ล้วงกระเป๋า สร้างปัญหา สร้างความเดือดร้อนให้แก่คนอื่น ซึ่งไม่ใช่การหาวิธีเป็นสุขอย่างแท้จริง เพราะ ไม่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ทางศีลธรรมและทางศาสนา และตัวเขาเองเมื่อโดนตำรวจจับได้ ก็มีความผิด ติดคุก ติดตะรางไป ยิ่งทำความเดือดร้อนสร้างทุกข์ให้กับตนเองและครอบครัวยิ่งขึ้นไปอีก การคิดทำให้เกิดทุกข์ได้มากมาย และหากใครคิดไม่ดี ให้ร้ายคนอื่น หรือมีความอิจฉาริษยา ระแวง จะเป็นการนำไปสู่ความทุกข์ได้ทั้งนั้น

ไม่มีความคิดเห็น: